ประวัติญาท่านโทน ขันติโก วัดบ้านพับ (พระทองคำแห่งเมืองดอกบัว)
"หลวงปู่ญาท่านโทน ขันติโก" พระเกจิชื่อดังแห่งวัดบ้านพับ จ.อุบลราชธานี ลูกศิษย์ลูกหาต่างเรียกขานนามท่านว่า "พระทองคำแห่งเมืองดอกบัว" ด้วยวัตรปฏิบัติอันงดงามและเรียบง่าย อยู่แบบสันโดษ
ปัจจุบัน หลวงปู่ญาท่านโทน สิริอายุ 93 ปี พรรษา 73 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านพับ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
หลวงปู่ญาท่านโทน เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2467 ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 6 ที่บ้านพับ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายมาและนางคำ เผ่าพันธุ์
ใน วัยเด็กได้เรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล ประจำตำบล จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2487 ณ วัดบ้านก่อ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โดยมี พระครูศรีสุตาภรณ์ วัดคูขาด เป็นพระอุปัชฌาย์, ญาท่านกรรมฐานแพง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และญาท่านทน วัดคูขาด เป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับฉายา "ขันติโก"
หลวงปู่ญาท่านโทน ขันติโก วัดบ้านพับ จ.อุบลราชธานี
ท่าน ได้จำพรรษาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดบ้านก่อ ในยุคนั้นชื่อเสียงของญาท่านกรรมฐานแพง พระกรรมวาจาจารย์ของท่านโด่งดังไปทั่วอีสานในฐานะพระเกจิผู้เรืองวิทยาคม จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิทยาคม โดยญาท่านกรรมฐานแพง เมตตาถ่ายทอดวิทยาคมให้จนหมดสิ้น ซึ่งญาท่านกรรมฐานแพง เป็นอาจารย์ของญาท่านสวน วัดนาอุดมด้วย
จากนั้นญาท่านโทน ได้ไปเรียนวิชาจาก "ญาท่านอินทร์" เจ้าตำรับประคำสายดำ ได้ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อเคน เรวโต
ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอ ต้นเสมอปลาย และเป็นศิษย์ของญาท่านกรรมฐานแพง ทำให้ชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนในวงกว้าง
ญาท่าน โทน มีอุปนิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยพูด คราวที่ท่านพูด จะได้รับคำเรียกขานจากชาวบ้านว่า "วาจาสิทธิ์" เป็นดังปากท่านปรารภทุกคราวไป
วัตรปฏิบัติของญาท่านโทน ช่วงหลังเทศกาลออกพรรษาทุกปี จะออกเดินธุดงควัตรไปตามป่าเขาลำเนาไพรหลายแห่งในภาคอีสาน โดยเฉพาะแถบเทือกเขาภูพาน สมัยนั้นป่าอุดมสมบูรณ์มาก บางครั้งเผชิญสัตว์ร้าย แต่ท่านหาหวั่นไหวไม่ เนื่องจากมีพลังจิตที่กล้าแข็งมาก ท่านได้แผ่เมตตาจิตให้สัตว์เหล่านั้น ไม่เข้ามาทำร้ายแต่อย่างใด
ญาท่านโทน ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเถระรูปหนึ่งที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ในแต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมา กราบนมัสการหลวงปู่อย่างล้นหลาม
สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาค ท่านได้นำไปพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดแห่งนี้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ กุฏิ ศาลาการเปรียญ ทำให้วัดบ้านพลับ แห่งนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังนำพระภิกษุ-สามเณร และญาติโยมร่วมกันปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีความร่มรื่นสวยงามด้วยการปลูก ต้นไม้ สร้างความสงบวิเวกเหมาะสมในการปฏิบัติธรรมยิ่งนัก
ญาท่านโทนได้ถ่ายทอดหลักธรรมง่ายๆ แก่ชาวบ้านให้ยึดถือปฏิบัติ คือ การรักษาศีล 5 เนื่องจากปุถุชนคนธรรมดายังมีกิเลสอยู่ขอให้รักษาศีล 5 ให้ได้ก็พอชีวิตจะพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองแน่นอน
ด้วยนิสัยที่มี ความเมตตา พูดน้อย ถ่อมตนไม่หยิ่งด้วยเกียรติ ไม่ทะเยอทะยานในลาภยศสรรเสริญ เคร่งครัดในสิกขาวินัย ยินดีในสิ่งที่ได้ใช้ในสิ่งที่มี ยินดีและพอใจตามมีตามได้ ชอบการสงเคราะห์ช่วยเหลือ เกี่ยวกับการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม
จึงเป็นพระผู้ใหญ่ของ จังหวัดที่ได้รับการยกย่องจากพระสงฆ์ด้วยกัน และชาวพุทธทั้งหลาย"
หลวงปู่ ญาท่าน โทน วัดบ้านพับ วาจาสิทธิ์ บารมียิ่งใหญ่แดนดินถิ่นอีสาน
- ญาท่านโทน เป็นองค์เดียวที่ ญาท่านสวน จับ เหรียญเอราวัณฯ ตกใจ ครูเดียวกัน เปล่งอุทานว่า “แรงหลายแท้”
- ญาท่านโทน เป็นองค์เดียวที่ สืบพุทธคุณ กรรมฐาน แพง มือขวา สำเด็จ ลุน นครจำปาสัก ญาครูอินทร์ ประคำสายดำ หลวงพ่อเคน ดงเศรษฐี ตาประขาวผมยาวในป่า
- ญาท่านโทน เสกพระ มีพระนั่งสมาธิตามเห็นองค์ท่านใหญ่เท่าฟ้า มีหัวใจเป็นแก้วส่องสว่างมาก ไฟฟ้าดับทั้งตำบล แต่ที่กุฏิหลวงปู่มีแสงส่องสว่างคลุมทั่ววัด
- ญาท่านโทน สืบตำราตรง พระเศรษฐีนวโกฎิ ตำรับจากท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันโท)
ปัจจุบัน หลวงปู่ญาท่านโทน เจริญอายุ ๙๓ ปี ไม่ออกจากกุฏิตลอดเวลา ยกเว้นทำวัตรเช้าเย็นเท่านั้น สมถะ เรียบง่าย บริสุทธิ์ สมนาม “พระทองคำแห่งเมืองอุบล” “ สันโดษ ” ไม่ต้องการยศถาบันดาศักดิ์ อาบน้ำก๊อก นั่งสมาธิทั้งวัน สืบทอดพระเวทย์ชั้นครูจากปรมาจารย์ลุ่มน้ำโขงครบถ้วน ขึ้นกรรมฐานจาก “กรรมฐาน แพง ” ศิษย์สำเร็จ ลุน นครจำปาสัก (ญาท่านกรรมฐาน แพง เป็นอาจารย์ ของญาท่าน สวน วัดนาอุดม ด้วย) จากนั้นไปเรียนวิชาจาก ญาท่าน อินทร์ เจ้าตำรับ ประคำสายดำ หลวงพ่อเคน เรวโต หรือ เคนดงเศรษฐี ตัวจริงที่ออกจากป่าเมื่อใด บอกขุมทรัพย์ในป่าให้ญาติโยมเสมอ จนได้รับฉายาว่า “ดงเศรษฐี ” ไปเรียนที่เมืองลับแล พญานาค เทพ พรหม พระอริยเจ้า ตาประขาวผมยาว ญาท่านโทน ผ่านพลังจิตว่าคือ “หลวงปู่เทพโลกอุดร”มาโปรดสอนท่าน ญาท่านโทน ท่านเงียบๆไม่ค่อยพูด ถ้าพูดจะเป็น “วาจาสิทธิ์” ออกจากปากท่านทุกคราวไป
ปาฏิหาริย์หลวงปู่มีมาก ยิงตะกรุดตาแตก พรมน้ำมนต์ ให้กลับไปบ้านถ่ายออกมาเป็น เหล็กแหลมและเส้นผม ใครได้กราบ ได้ใช้วัตถุมงคลของหลวงปู่ชีวิตเปลี่ยนดีขึ้นทุกคน โดนยิงจ่อๆ ลูกปืนเฉียวหู ประคำสายดำงูไม่กล้าอ้าปากกัด ปัจจุบันนี้ ญาท่านยังโปรดสัตว์เป็นที่พึ่งของสาธุชนมิรู้ลืม"
วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่ท่านบอกไว้ว่า..." ของที่กูทำ มีไว้บ่จน บ่อดตาย แคล้วคลาดปลอดภัย บ่มีตายโหง "